แก่งลานนกยูง หน่วยแม่เรวา อุทยานแห่งชาติแม่วงก์

   

    เสียงน้ำไหลผ่านโตกหิน  ผสมเสียงจิ้งหรีดเรไร  ดังระงมไปทั่วท้องน้ำและผื่นป่า  ประหนึ่งเสียงดนตรี  แต่มิใช่เสียงดนตรีจากเครื่องดนตรีที่มนุษย์ประดิษฐ์  แต่เป็นดนตรีจากธรรมชาติสร้างสรรค์จากพื้นป่าแม่วงก์

    เมื่อสองวันที่แล้วครอบครัวเราได้ออกเดินทางจากกรุงเทพฯ  มุ่งสู่แก่งลานนกยูง  หน่วยแม่เรวา อุทยานแห่งชาติแม่วงก์  จังหวัดนครสวรรค์  จากข่าวคราวเรื่องแนวคิดที่จะสร้าง  และการต่อต้านการสร้างเขื่อนแม่วงก์ที่ผ่านๆ มา  ทำให้พวกเราตัดสินใจเพื่อมาดูว่าพื้นที่ป่าแห่งนี้เป็นอย่างไร  ก่อนที่มันจะกลายเป็นเพียงพื้นน้ำ  ถ้าการสร้างเขื่อนเกิดขึ้นจริง


    หน่วยแม่เรวาเป็น 1 ใน 7 หน่วยของอุทยานแห่งชาติแม่วงก์  อุทยานแห่งชาติแห่งนี้มีพื้นที่ 187,500 ไร่  กินพื้นที่ 3 อำเภอ  ใน  2 จังหวัด คือจังหวัดกำแพงเพชร และจังหวัดนครสวรรค์  เป็นแหล่งกำเนิดต้นน้ำลำธารหลายสาย  โดยเฉพาะลำน้ำแม่วงศ์ที่ถือเป็นลำน้ำสำคัญของสายหนึ่ง

    แก่งลานนกยูง  เหมาะมากกลับการมาท่องเที่ยวในฤดูหนาว  เนื่องจากอากาศจะเย็นสบาย  แต่ถ้ามาในฤดูร้อนอุณหภูมิอาจจะสูงไปสักหน่อย

    ด้วยความที่อุทยานแห่งชาติแม่วงก์เป็นพื้นป่าที่มีอนาเขตติดกับ อุทยานแห่งชาติคลองลานด้านทิศเหนือ  ติดกับเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้งทางด้านทิศใต้  และติดกับเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าอุ้มผางด้านทิศตะวันตก  ทำให้กลายเป็นพื้นป่าขนาดใหญ่  และมีความสำคัญในการรักษาพันธุ์สัตว์ป่า และพันธุ์พืช  แห่งหนึ่งของป่าตะวันตกของไทย

    ปัจจุบันมีการพบสัตว์นักล่า เช่น เสือโคร่ง  ที่ย้ายถิ่นฐานมาจากห้วยขาแข้งที่ห่างออกไปถึง 60 กิโลเมตร  บ่งบอกถึงความอุดมสมบูรณ์ของพื้นป่าได้เป็นอย่างดี

    การเข้าพักกางเต็นท์ ณ แก่งลานนกยูงนั้น  สามารถติดต่อเจ้าหน้าที่บริเวณประตูทางเข้าหน่วย   โดยมีอัตราค่าบริการค่าเข้าเที่ยวชมตามประกาศในเว็บไซน์ของอุทยานฯ ดังนี้  ผู้ใหญ่ 40 บาท  เด็ก 20 บาท  ค่านำรถยนต์เข้าพื้นที่ 100 บาท  แต่พี่ๆ เจ้าหน้าที่ใจดีจะเก็บแค่ 20 บาทสำหรับผู้ใหญ่  ส่วนเด็กจะไม่เก็บค่าเข้า  ส่วนค่ากางเต็นท์จะเก็บเพิ่มอีก 30 บาทต่อคนต่อคืน  โดยคิดแต่เฉพาะผู้ใหญ่เช่นกัน

    ส่วนบ้านพัก  ที่หน่วยแม่เรวาจะมีบ้านพักขนาดใหญ่จำนวน 2 หลัง  ซึ่งสามารถจองผ่านทางเว็บไซน์ของอุทยานฯ ได้เลย


    ในพื่นที่ของหน่วย  จะมีนกยูงอยู่จำนวนมาก  ทั้งที่เป็นนกที่ปล่อยกลับคืนสู่ธรรมชาติ  และนกป่าที่ออกมารวมฝูงกัน  ถือว่าเป็นเสนห์ของที่นี้เป็นอย่างมาก  พี่เจ้าหน้าที่แจ้งว่าช่วงเดือนธันวาคม  ที่ครอบครัวเราไปถือว่าเป็นช่วงที่ดี  เพราะเป็นช่วงที่นกยูงกำลังติดสัตว์  มีโอกาสที่จะได้เห็นนกยู่ตัวผู้ลำแพนโชว์หางเพื่ออวดตัวเมียได้ง่ายกว่าช่วงอื่น

    ครอบครัวเราเลือกที่จะกางเต็นท์  แทนการเข้าพักในบ้านพัก  โดยเลือกบริเวณใกล้ลำธาร  เพราะต้องการนอนฟังเสียงของลำธารที่ไหลผ่านก้อนหิน  และจะได้สัมพัทธ์ไอเย็นของสายน้ำไปด้วยในตัว

    โดยพื้นที่กางเต็นของที่นี้กว้างขวางมาก  สามารถรองรับนักท่องเที่ยวได้เป็นจำนวนมาก  พื้นที่ส่วนใหญ่อยู่ใต้ร่มเงาของต้นสักใหญ่  ทำให้ร่มรื่นเย็นสบายตลอดวัน  สามารถทำกิจกรรมต่างๆได้อย่างสบาย

    บริเวณแก่งน้ำ  น้ำไม่ลึกมาก  ท้องน้ำเป็นหินกรวดขนาดใหญ่สลับพื้นทรายเป็นบางช่วง  เด็กๆ สามารถเล่นน้ำได้โดยไม่เป็นอัตราย  แต่ต้องอยู่ในความดูแลของผู้ปกครอง  จะมีก็แต่บริเวณหน้าบ้านพักที่เป็นวังน้ำลึกมีป้ายให้ระวังในการเล่นน้ำ

    บริเวณริมน้ำมีผักกูดขึ้นอยู่จำนวนมาก  ผักกูดเป็นต้นไม้ชนิดเฟริ์น  สามารถรับประทานสด  หรือลวกจิ้มนำ้พริกก็ได้  บางคนชอบนำไปผัดน้ำมันหอยก็อร่อยไปอีกแบบ

    แถมด้วยเมื่อเดินออกจากลานกางเต็นท์ไปประมาณ 500 เมตร  จะเจอทางขึ้น "มออีหืด"  ซึ่งเป็นภูเขาที่มีจุดชมวิวด้านบน ระยะทางการเดินขึ้นประมาณ  1 กิโลเมตร  ทางเป็นกรวดหินควรเดินด้วยความระมัดระวัง  แต่ถ้ามีไม้เท้าติดมือไปด้วยจะทำให้เดินสะดวกขึ้น

    สรุปแก่งลานนกยูง  หน่วยแม่เรวา  อุทยานแห่งชาติแม่วงก์  ถึงวิวทิวทัศน์จะไม่ได้สวยงามมากนัก  แต่ยังอุดมไปด้วยความเป็นธรรมชาติ  มีต้นไม้พืชพันธุ์  รวมถึงสัตว์ป่าต่างๆ มากมาย  การได้มาพักผ่อนสูดลดหายใจให้เต็มปอด  นอนฟังเสียงเพลงแห่งพงไพร  ก็ถือว่าคุ้มค่า  คุ้มเวลา  ท่านใดที่กำลังหาที่สงบๆ พักผ่อน  ผมเชื่อว่าที่นี้คงไม่ทำให้ท่านผิดหวัง

ขอให้ทุกท่านมีความสุข  และสนุกกับการท่องเที่ยวครับ
09-11 ธ.ค. 59
บ้านพักหนึ่งในสองหลัง

สายน้ำใสสะอาด และเย็นสบาย




ผักกูด  ของอร่อยจากธรรมชาติ



หาดทรายที่นกยูงชอบลงมาเดิน

วิวบนมออีหืด

วิวบนมออีหืด

วิวบนมออีหืด

วิวบนมออีหืด




ความคิดเห็น